Abstract:
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือ เพื่อศึกษาลักษณะโครงสร้างทางจุลภาคของแนวหลอมละลายและพื้นที่
หลอมละลายในงานเชื่อมโลหะต่างชนิดระหว่างเหล็กกล้าคาร์บอน และเหล็กกล้าไร้สนิม ที่ส่งผลต่อ
ความสามารถในทดสอบด้วยวิธีคลื่นเสียงความถี่สูง และคลื่นเสียงความถี่สูงแบบจัดเรียงเฟส การ
ทดลองใช้วัสดุเหล็กกล้าคาร์บอนเกรด A516 และเหล็กกล้าไร้สนิมเกรด 316 มาอบที่อุณหภูมิ 800 900
1000 1100 และ 1200 องศาเซลเซียส ปล่อยให้เย็นตัวในเตา จากนั้นสร้างวิธีสำหรับประเมินความ
รุนแรงของรอยความไม่ต่อเนื่อง ด้วยเส้นโค้งชดเชยค่าพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงเนื่องจากระยะทาง
สำหรับวิธีคลื่นเสียงความถี่สูง และ ค่าชดเชยเวลาการเดินทางของคลื่นเสียง สำหรับการทดสอบด้วยวิธี
คลื่นเสียงแบบเรียงเฟส ตามข้อกำหนดของ ASME section V article 4 2017 ในส่วนรอยความไม่
ต่อเนื่องที่ใช้ในงานวิจัย ได้จำลองรอยความไม่ต่อเนื่องชนิดรูพรุน ขนาด 2.5 และ 1 มิลลิเมตร กับชนิด
หลอมละลายด้านข้างไม่สมบูรณ์ เพื่อให้ครอบคลุมในการทดสอบทั้งในบริเวณแนวหลอมละลายและใน
พื้นที่หลอมละลาย ผลการใช้เส้นโค้งชดเชยค่าพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงเนื่องจากระยะทาง ทดสอบ
รอยความไม่ต่อเนื่องในงานเชื่อมที่สร้างขึ้น พบว่าสัญญาณคลื่นเสียงความถี่สูงจากหัวตรวจสอบความถี่
2.25 MHz มีค่าการลดทอนพลังงานคลื่นเสียงน้อยกว่า และการตอบสนองของสัญญาณมีความถูกต้อง
มากกว่า 5 MHz โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้มุมหัวตรวจสอบ 60 องศา ในการตรวจสอบชิ้นงานเชื่อม
เหล็กกล้าไร้สนิม และงานเชื่อมโลหะต่างชนิดระหว่างเหล็กกล้าไร้สนิมกับเหล็กกล้าคาร์บอน เส้นโค้ง
ชดเชยค่าพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงเนื่องจากระยะทาง ที่สร้างจากชิ้นงานที่อบอุณหภูมิ 1000 องศา
เซลเซียส มีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด เพราะเป็นช่วงอุณหภูมิที่ทำให้เกิดเกรนโตในพื้นที่มาก
ที่สุด สำหรับการทดสอบด้วยวิธีคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเรียงเฟส ในการตรวจสอบชิ้นงานที่มีรอยความ
ไม่ต่อเนื่อง พบว่าผลการทดสอบที่ใช้ค่าชดเชยเวลาการเดินทางของคลื่นเสียง ที่สร้างจากชิ้นงานที่อบ
อุณหภูมิ 1000 องศาเซลเซียส มีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุดเช่นเดียวกันกับการทดสอบด้วยวิธี
คลื่นเสียงความถี่สูง แต่ในแง่การใช้งาน วิธีคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเรียงเฟส สามารถทำงานได้ง่ายกว่า
เนื่องจากในการทดสอบมีสัญญาณรบกวนน้อยกว่า สามารถเลือกมุมในการทดสอบ และมีหน้าจอ
Sectorial Scan ส่งผลให้ช่วยลดความผิดพลาดและง่ายต่อการประเมินผลรอยความไม่ต่อเนื่อง ซึ่งผล
การทดสอบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อวิธีการสร้างเส้นโค้งชดเชยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงเนื่องจาก
ระยะทาง สำหรับการทดสอบหารอยความไม่ต่อเนื่องในชิ้นงานเชื่อมเหล็กกล้าไร้สนิม และงานเชื่อม
โลหะต่างชนิดระหว่างเหล็กกล้าไร้สนิมกับเหล็กกล้าคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมให้มีความถูกต้องและ
แม่นยำ ลดความผิดพลาดและอันตรายจากการประเมินผลการทดสอบผิดพลาด